วิธีอ่านกราฟ Forex นักเทรดมือใหม่ห้ามพลาด!
ทักษะการอ่านและวิเคราะห์กราฟ Forex ถือเป็นพื้นฐานที่สำคัญในการเทรด Forex เพราะกราฟจะแสดงข้อมูลการเคลื่อนไหวของราคาคู่สกุลเงินในรูปแบบต่าง ๆ ซึ่งนักเทรดสามารถนำมาใช้คาดการณ์ทิศทางของราคาในอนาคตได้ บทความนี้จะพาคุณเข้าใจวิธีการอ่านกราฟ Forex เบื้องต้นที่นักเทรดมือใหม่ไม่ควรพลาด
หัวข้อที่น่าสนใจ
กราฟ Forex คืออะไร
กราฟ Forex คือเครื่องมือที่แสดงการเคลื่อนไหวของราคาคู่สกุลเงินในช่วงเวลาต่าง ๆ นักเทรดสามารถใช้กราฟในการวิเคราะห์แนวโน้มตลาด ค้นหาจุดเข้าซื้อขายที่เหมาะสม และบริหารความเสี่ยงในการเทรด การเข้าใจรูปแบบและองค์ประกอบของกราฟเทรด Forex จะช่วยให้นักเทรดมองเห็นโอกาสทางการลงทุนได้ชัดเจนยิ่งขึ้น
กราฟ Forex มีกี่ประเภท
กราฟ Forex แบ่งออกเป็น 3 ประเภท ดังนี้
1. กราฟเส้น (Line Chart)
กราฟเส้นเป็นรูปแบบที่เข้าใจง่ายที่สุดสำหรับนักเทรดมือใหม่ โดยเส้นที่วาดบนกราฟนี้จะเชื่อมโยงระหว่างราคาปิดของสกุลเงินในแต่ละช่วงเวลาที่กำหนด แม้จะมีข้อจำกัดที่บอกรายละเอียดได้ไม่ครบ แต่ตอบโจทย์นักเทรดที่ต้องการมองภาพรวมของตลาด

2. กราฟแท่ง (Bar Chart)
กราฟแท่งให้ข้อมูลที่ละเอียดและครบถ้วนมากขึ้น โดยขีดแนวนอนด้านซ้ายแสดงราคาเปิด ขีดด้านขวาแสดงราคาปิด และแท่งแนวตั้งที่แสดงช่วงราคาตั้งแต่จุดต่ำสุดถึงสูงสุด ความยาวของแท่งสะท้อนความผันผวนของตลาด โดยแท่งยาวบ่งบอกถึงการเคลื่อนไหวของราคาที่รุนแรง ขณะที่แท่งสั้นแสดงถึงช่วงที่ตลาดค่อนข้างนิ่ง นักเทรดสามารถเลือกดูกรอบเวลาได้หลากหลายตั้งแต่นาทีไปจนถึงรายวันหรือรายเดือน ทำให้วิเคราะห์พฤติกรรมราคาได้ตามความต้องการ

3. กราฟแท่งเทียน (Candlestick)
กราฟแท่งเทียนได้รับความนิยมมากที่สุดในการเทรด Forex เพราะแสดงข้อมูลราคาได้ครบถ้วนและอ่านง่าย แท่งเทียนแต่ละแท่งมีส่วนตัวเทียน (Body) และไส้เทียน (Shadow) โดยสีของแท่งเทียนจะบอกทิศทางของราคา เช่น แท่งสีเขียวหรือขาวแสดงว่าราคาปิดสูงกว่าราคาเปิด ส่วนแท่งสีแดงหรือดำแสดงว่าราคาปิดต่ำกว่าราคาเปิด นักเทรดสามารถใช้รูปแบบแท่งเทียนในการคาดการณ์การกลับตัวของราคาได้อย่างแม่นยำ

วิธีการอ่านกราฟ Forex ดูอะไรบ้าง
การอ่านกราฟ Forex ให้เป็นนั้นต้องพิจารณาหลายองค์ประกอบประกอบกัน เพื่อให้การวิเคราะห์มีความแม่นยำมากขึ้น ดังนี้
1. แกนราคาและเวลา
แกนราคาและเวลาเป็นองค์ประกอบพื้นฐานที่สำคัญของกราฟ Forex โดยแกน Y (แนวตั้ง) แสดงระดับราคาของคู่สกุลเงิน ส่วนแกน X (แนวนอน) แสดงเวลา นักเทรดสามารถปรับมุมมองของกราฟให้แสดงข้อมูลในกรอบเวลาต่าง ๆ ตั้งแต่นาที ชั่วโมง วัน สัปดาห์ หรือเดือน
การอ่านกราฟจะเริ่มจากซ้ายไปขวา ราคาที่อยู่ทางซ้ายเป็นราคาในอดีต ส่วนด้านขวาสุดเป็นราคาปัจจุบัน การเข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างราคาและเวลาจะช่วยให้นักเทรดมองเห็นรูปแบบการเคลื่อนไหวของราคาและประเมินแนวโน้มตลาดได้ดียิ่งขึ้น
2. เทรนไลน์ (Trend Line)
เทรนไลน์เป็นเครื่องมือที่นักเทรดใช้ในการวิเคราะห์แนวโน้มของตลาด โดยการตีเส้นในกราฟใน Timeframe แล้วสังเกตช่วงราคาที่สูงที่สุด (High) หรือต่ำที่สุด (Low) แนวโน้มตลาดสามารถแบ่งได้เป็น 3 ประเภท คือ แนวโน้มขาขึ้น (Uptrend) ที่ราคาสร้างจุดสูงสุดและต่ำสุดใหม่ที่สูงกว่าเดิม แนวโน้มขาลง (Downtrend) ที่ราคาสร้างจุดสูงสุดและต่ำสุดใหม่ที่ต่ำกว่าเดิม และแนวโน้มเคลื่อนตัวออกด้านข้าง (Sideways) ที่ราคาเคลื่อนไหวในกรอบแคบ ๆ
3. พฤติกรรมราคา (Price Action)
การวิเคราะห์พฤติกรรมราคา หรือ Price Action เป็นศาสตร์ที่ศึกษาจิตวิทยาของตลาด โดยเชื่อว่าทุกเหตุการณ์และปัจจัยที่ส่งผลต่อราคาจะสะท้อนออกมาในรูปแบบของกราฟ นักเทรดที่เชี่ยวชาญการอ่านพฤติกรรมราคาจะสามารถคาดการณ์ทิศทางของตลาดได้แม้ในช่วงที่มีข่าวสำคัญหรือความผันผวนสูง โดยไม่จำเป็นต้องติดตามข่าวสารตลอดเวลา
4. Pips
การอ่านกราฟ Forex จำเป็นต้องเข้าใจหน่วย Pips (Price Interest Point) เพราะเป็นสิ่งที่ใช้วัดระยะการเคลื่อนที่ของราคาบนกราฟ เมื่อคุณมองกราฟ คุณจะเห็นช่องระยะห่างของราคาแต่ละช่องมีค่าเท่ากับกี่ pips ซึ่งขึ้นอยู่กับการซูมของกราฟและคู่สกุลเงินที่เทรด
เวลาอ่านการเคลื่อนไหวของราคาบนกราฟ คุณจะเห็นว่า แกนราคา (แนวตั้ง) จะมีขีดบอกระยะทุก ๆ 10-20 pips และระยะห่างระหว่างราคาเปิดและปิดของแต่ละแท่ง คือจำนวน pips ที่ราคาเคลื่อนที่ เช่น หากคู่สกุลเงิน EUR/USD เคลื่อนจาก 1.25000 เป็น 1.25010 แสดงว่าได้ขยับ 1 pips
คุณเป็นนักเทรดแบบไหน? รู้ก่อนเริ่มวิเคราะห์กราฟ forex
ก่อนจะเริ่มวิเคราะห์กราฟ Forex นักเทรดควรเข้าใจสไตล์ของตัวเองให้ชัดเจนเสียก่อน เพราะแต่ละแนวทางมีวิธีอ่านกราฟ และเทคนิคเทรด Forex ที่ต่างกัน หากรู้ตัวว่าอยู่ในกลุ่มใด จะช่วยวางกลยุทธ์และเลือกเครื่องมือวิเคราะห์ได้แม่นยำขึ้น เพิ่มโอกาสในการตัดสินใจและลดความผิดพลาดจากการเทรดที่ไม่สอดคล้องกับแผนของตัวเอง
1. สายถือยาว
นักเทรดสายถือยาวมักเป็นคนที่มีเวลาน้อย ไม่สามารถเฝ้าดูกราฟเทรด Forex ได้ตลอดเวลา วิธีเทรด Forex ของสายนี้ คือถือครองสถานะเป็นเวลานาน อาจเป็นสัปดาห์ หรือเป็นเดือน เพื่อรอให้ราคาเคลื่อนที่ไปในทิศทางที่คาดการณ์ไว้ พวกเขามีความอดทนสูง ไม่รีบร้อนที่จะทำกำไร และมักใช้การวิเคราะห์กราฟในกรอบเวลาที่ใหญ่ เช่น กราฟรายวันหรือรายสัปดาห์ เพื่อมองหาแนวโน้มหลักของตลาดและหาจุดเข้า-ออกที่สำคัญ
2. สาย Day Trade
นักเทรดสาย Day Trade จะเทรดภายในวันเดียว โดยเปิดและปิดสถานะทั้งหมดก่อนตลาด Forex ปิด ซึ่งต้องการทำกำไรจากการเคลื่อนไหวของราคาในระยะสั้น มองหาโอกาสในการเข้าซื้อหรือขายในช่วงที่ตลาดมีความผันผวนสูง สายนี้ต้องใช้เวลาในการดูกราฟ ใช้เทคนิคการเทรด Forex ระยะสั้นอย่างเหมาะสม และติดตามข่าวสารอย่างสม่ำเสมอ เพื่อจับจังหวะการเข้าเทรดที่แม่นยำ
3. สายซิ่ง
นักเทรดสายซิ่งหรือ Scalper จะเทรดในกรอบเวลาที่สั้นมาก เช่น M1-M5 โดยจะทำกำไรจากความผันผวนของราคาเล็ก ๆ น้อย ๆ เน้นการทำกำไรจำนวนมากครั้ง แต่ละครั้งได้กำไรไม่มาก สายนี้ต้องมีความรวดเร็วในการตัดสินใจ มีความชำนาญในการวิเคราะห์กราฟอย่างรวดเร็ว และสามารถรับมือกับความผันผวนของตลาดได้ดี
6 เทคนิคการอ่านและวิเคราะห์กราฟ Forex สำหรับมือใหม่
การวิเคราะห์กราฟเทรด Forex เป็นทักษะสำคัญสำหรับนักเทรดทุกคน มีเทคนิคและเครื่องมือมากมายที่สามารถนำมาใช้ในการวิเคราะห์ แต่สำหรับมือใหม่ ควรเริ่มต้นจากการเรียนรู้เทคนิคพื้นฐานเหล่านี้ก่อน
1. ใช้เทรนด์ไลน์
เทรนด์ไลน์คือเส้นที่ลากบนกราฟเพื่อแสดงทิศทางของแนวโน้มราคา ช่วยให้เรามองเห็นว่าตลาดกำลังอยู่ในช่วงขาขึ้น ขาลง หรือเคลื่อนที่ออกข้าง (Sideways)
- ขาขึ้น (Uptrend): ราคามีแนวโน้มที่จะสูงขึ้นเรื่อย ๆ โดยทำจุดสูงสุดและจุดต่ำสุดใหม่ที่สูงขึ้น

- ขาลง (Downtrend): ราคามีแนวโน้มที่จะต่ำลงเรื่อย ๆ โดยทำจุดสูงสุดและจุดต่ำสุดใหม่ที่ต่ำลง
- ไซด์เวย์ (Sideways): ราคาเคลื่อนที่อยู่ในกรอบแคบ ๆ ไม่มีทิศทางที่ชัดเจน
การตีเทรนไลน์ช่วยให้เราเห็นภาพรวมของตลาดและประเมินโอกาสในการเทรดได้ แต่ควรใช้ร่วมกับเครื่องมืออื่น ๆ เพื่อยืนยันสัญญาณ
2. ใช้ RSI
RSI เป็นเครื่องมือที่ใช้วัดความแข็งแกร่งของราคา เพื่อดูว่าตลาดอยู่ในภาวะซื้อมากเกินไป (Overbought) หรือขายมากเกินไป (Oversold) ค่า RSI จะมีค่าระหว่าง 0-100
- RSI เกิน 70: ตลาดอาจอยู่ในภาวะ Overbought และมีโอกาสที่ราคาจะปรับตัวลง
- RSI ต่ำกว่า 30: ตลาดอาจอยู่ในภาวะ Oversold และราคามีโอกาสปรับตัวขึ้น
RSI ช่วยในการจับจังหวะการกลับตัวของราคา แต่ควรใช้ร่วมกับการวิเคราะห์แนวโน้มและลักษณะของตลาด เพื่อหลีกเลี่ยงสัญญาณหลอก
3. ใช้ MACD
MACD เป็นเครื่องมือที่ใช้ดูทิศทางของแนวโน้มและความแรงของแรงซื้อขาย โดยดูจากความสัมพันธ์ระหว่างเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ (Moving Average)
- MACD Line: เส้นที่คำนวณจากความแตกต่างของค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่สองเส้น
- Signal Line: เส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ของ MACD Line
- Histogram: แสดงความแตกต่างระหว่าง MACD Line และ Signal Line
ถ้าเส้น MACD ตัดขึ้นเหนือเส้น Signal Line มักเป็นสัญญาณซื้อ ในทางตรงข้าม หากตัดลงต่ำกว่า มักเป็นสัญญาณขาย
4. ใช้ Fibonacci Retracement
Fibonacci Retracement เป็นเครื่องมือที่ใช้หาแนวรับและแนวต้านที่เป็นไปได้ โดยอิงจากสัดส่วน Fibonacci ซึ่งเป็นสัดส่วนทางคณิตศาสตร์ที่พบได้ในการเคลื่อนไหวของราคา
- สัดส่วนที่นิยมใช้: 23.6%, 38.2%, 50%, 61.8%, และ 78.6%
เมื่อราคาเคลื่อนที่ไปในแนวโน้มใดแนวโน้มหนึ่ง แล้วเริ่มย่อตัวลงมา สัดส่วน Fibonacci เหล่านี้มักเป็นระดับที่ราคาอาจหยุดหรือกลับตัว
5. ดูแท่งเทียนญี่ปุ่น
แท่งเทียนญี่ปุ่นเป็นวิธีการแสดงราคาที่ได้รับความนิยมอย่างมาก แต่ละแท่งเทียนแสดงข้อมูลราคาในช่วงเวลาที่กำหนด (เช่น 1 นาที 1 ชั่วโมง 1 วัน) ประกอบด้วย
- Body: ส่วนที่เป็นสี่เหลี่ยม แสดงช่วงราคาเปิดและราคาปิด
- Wick (หรือ Shadow): เส้นที่ยื่นออกมาจาก Body แสดงราคาสูงสุดและราคาต่ำสุด
นอกจากนี้ลักษณะแท่งเทียนอย่าง Doji, Hammer หรือ Engulfing ยังใช้เป็นสัญญาณกลับตัวได้อีกด้วย หากมือใหม่เข้าใจรูปแบบเหล่านี้ จะอ่านพฤติกรรมตลาดได้เฉียบคมขึ้น
6. ดู Volume ประกอบการตัดสินใจ
Volume หรือปริมาณการซื้อขาย เป็นตัวชี้วัดว่าแนวโน้มที่เกิดขึ้นมี “น้ำหนัก” มากน้อยแค่ไหน หากราคาเคลื่อนไหวพร้อมกับ Volume ที่เพิ่มขึ้น แสดงว่าตลาดมีแรงหนุนที่แข็งแกร่ง ในทางตรงกันข้าม หากราคาวิ่งโดยที่ Volume ต่ำ อาจเป็นสัญญาณเตือนว่าตลาดกำลังไร้ทิศทาง การวิเคราะห์ Volume ควบคู่กับแนวโน้มและแท่งเทียนจะช่วยให้ตัดสินใจได้แม่นยำมากขึ้น
สรุปบทความ
การเรียนรู้วิธีอ่านกราฟเทรด Forex เป็นทักษะพื้นฐานที่สำคัญสำหรับนักเทรดทุกระดับ การเข้าใจรูปแบบกราฟแต่ละประเภท การวิเคราะห์แนวโน้ม และการศึกษาพฤติกรรมราคาจะช่วยให้คุณสามารถวางแผนการเทรดได้อย่างมีระบบและมีโอกาสประสบความสำเร็จมากขึ้น
ก้าวสู่การเป็นนักเทรดที่ประสบความสำเร็จไปกับ Master Trader Academy กับคอร์สเรียนเทรดที่ครอบคลุม พร้อมเทคนิคการเทรดดี ๆ และทีมผู้สอนที่มีประสบการณ์ตรง เราพร้อมช่วยให้คุณก้าวสู่การเป็นนักเทรดมืออาชีพที่ประสบความสำเร็จ
สอบถามเพิ่มเติมเกี่ยวกับคอร์สเรียนได้ที่
- Line : @mtaacademy
- Facebook : Master Trader Academy TH
- Email : mtamasteracademy@gmail.com


3. พฤติกรรมราคา (Price Action)

