กราฟแท่งเทียนคืออะไร วิธีการอ่านกราฟแท่งเทียน
การวิเคราะห์กราฟแท่งเทียนเป็นสิ่งที่ช่วยให้นักลงทุนสามารถคาดการณ์ทิศทางของราคาได้อย่างแม่นยำมากขึ้น แต่เชื่อว่าหลายคนพยายามจำรูปแบบกราฟแท่งเทียน แต่สุดท้ายก็ไม่สามารถนำมาใช้ประโยชน์ในการเทรดได้อย่างเต็มที่ ในบทความนี้ จึงจะมาบอกวิธีการอ่านกราฟแท่งเทียนพื้นฐาน และแนะนำรูปแบบกราฟแท่งเทียนที่ใช้ได้จริงและมีประสิทธิภาพสูง ถ้าพร้อมแล้ว ไปดูกันเลย
กราฟแท่งเทียนคืออะไร
กราฟแท่งเทียน (Candlestick Chart) คือกราฟที่มีสีแดงและสีเขียวเรียงตัวกันเหมือนแท่งเทียนเล็ก ๆ โดยแท่งเทียนเหล่านี้นำเสนอการเคลื่อนไหวของราคาที่แสดงให้เห็นถึงการต่อสู้ระหว่างแรงซื้อและแรงขายในตลาด แต่ละแท่งเทียนจะบอกการเคลื่อนไหวของราคาในช่วงเวลาหนึ่ง ๆ โดยแสดงทั้งราคาเปิด ราคาปิด ราคาสูงสุด และราคาต่ำสุด ทำให้นักเทรดสามารถวิเคราะห์สภาวะตลาดและคาดการณ์ทิศทางของราคาในอนาคตได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ส่วนประกอบของแท่งเทียน
ตัวเทียน (Real Body) – ส่วนหนาของแท่งเทียน แสดงระยะห่างระหว่างราคาเปิดและราคาปิด เป็นส่วนหลักที่บ่งบอกถึงทิศทางของราคา
- ไส้บน (Upper Shadow) – เส้นด้านบนที่ยื่นออกมาจากตัวเทียน แสดงราคาสูงสุดในช่วงเวลานั้น
- ไส้ล่าง (Lower Shadow) – เส้นด้านล่างที่ยื่นออกมาจากตัวเทียน แสดงราคาต่ำสุดในช่วงเวลานั้น
- จุดสูงสุด (High) – จุดที่สูงที่สุดของแท่งเทียนนั้น
- จุดต่ำสุด (Low) – จุดที่ต่ำที่สุดของแท่งเทียนนั้น
- ราคาเปิด (Open) – ช่วงที่เริ่มต้นของแท่งเทียน
- ราคาปิด (Close) – ช่วงสุดท้ายก่อนจบแท่งเทียนนั้น
สีของแท่งเทียน
- แท่งสีเขียวหรือขาว – แสดงว่าราคาปิดสูงกว่าราคาเปิด บ่งบอกถึงแรงซื้อที่มากกว่าแรงขาย
- แท่งสีแดงหรือดำ – แสดงว่าราคาปิดต่ำกว่าราคาเปิด บ่งบอกถึงแรงขายที่มากกว่าแรงซื้อ
วิธีการอ่านกราฟแท่งเทียนเบื้องต้น
การวิเคราะห์กราฟแท่งเทียนสามารถบอกการเคลื่อนไหวของราคาในช่วงเวลาหนึ่ง ๆ โดยสามารถอ่านลักษณะกราฟแท่งเทียนได้เบื้องต้นดังนี้
การอ่านแรงซื้อ-ขาย ราคาเปิด-ปิด
- แท่งเขียว/ขาวขนาดใหญ่ – แรงซื้อแข็งแกร่ง ผู้ซื้อผลักดันราคาให้ปิดสูงกว่าราคาเปิดได้มาก
- แท่งแดง/ดำขนาดใหญ่ – แรงขายแข็งแกร่ง ผู้ขายกดราคาให้ปิดต่ำกว่าราคาเปิดได้มาก
การดูปริมาณการซื้อขาย
- แท่งเทียนยาว – แสดงถึงความกระตือรือร้นในการซื้อขาย มีการไล่ราคาซื้อขายกันอย่างผันผวน ซึ่งการดูกราฟแท่งเทียน จุดซื้อขายจะเกิดขึ้นในโซนที่แข็งแรง หรือโซนที่แท่งเทียนใหญ่ยาวเนื้อแน่นนั่นเอง
- แท่งเทียนสั้น – บ่งชี้ถึงความไม่แน่นอนในตลาด ฝั่งซื้อและฝั่งขายยังไม่ตัดสินใจว่าจะเลือกไปในทิศทางไหน ราคาจึงไม่ผันผวน
แพทเทิร์นกราฟแท่งเทียนพื้นฐาน
แพทเทิร์น หรือรูปแบบกราฟแท่งเทียน (Candlesticks Pattern) สามารถช่วยในการคาดการณ์ทิศทางของราคาในอนาคตได้ โดยบทความนี้ได้รวบรวมแพทเทิร์นกราฟแท่งเทียน 6 รูปแบบที่นักเทรดควรรู้มาแนะนำ มีอะไรบ้างมาดูกัน
1. Doji
Doji เป็นแพทเทิร์นกราฟแท่งเทียนที่มีลักษณะพิเศษ คือราคาเปิดและราคาปิดอยู่ในระดับเดียวกันหรือใกล้เคียงกันมาก ทำให้ตัวเทียนมีขนาดเล็กมากหรือแทบไม่มีตัวเทียนเลย แสดงถึงความไม่แน่นอนในตลาด กำลังลังเล หรือเตรียมเปลี่ยนทิศทาง สามารถส่งสัญญาณถึงการกลับตัว
2. Engulfing
Engulfing Pattern เป็นรูปแบบที่เกิดจากแท่งเทียนสองแท่งติดกัน โดยแท่งที่สองมีขนาดใหญ่กว่าและครอบคลุมตัวเทียนแท่งแรกทั้งหมด แบ่งออกเป็น 2 แบบ
- Bullish Engulfing เกิดขึ้นในแนวโน้มขาลง เมื่อแท่งเทียนสีเขียวขนาดใหญ่เกิดขึ้นหลังจากแท่งเทียนสีแดง และมีขนาดใหญ่กว่าครอบคลุมแท่งก่อนหน้าทั้งหมด สัญญาณนี้บ่งชี้ว่าผู้ซื้อได้เข้ามามีอำนาจเหนือตลาดและอาจเกิดการกลับตัวขึ้น
- Bearish Engulfing ตรงกันข้าม เกิดในแนวโน้มขาขึ้น เมื่อแท่งเทียนสีแดงขนาดใหญ่ครอบคลุมแท่งเทียนสีเขียวก่อนหน้า แสดงถึงแรงขายที่เข้ามาอย่างรุนแรงและอาจนำไปสู่การกลับตัวลง
3. Hammer
Hammer เป็นแพทเทิร์นกราฟแท่งเทียนที่มีลักษณะคล้ายค้อน มีตัวเทียนขนาดเล็กอยู่ด้านบนและมีไส้ล่างยาว มักพบในช่วงท้ายของแนวโน้มขาลง บ่งบอกว่าแม้ราคาจะถูกกดลงมาต่ำ แต่ผู้ซื้อสามารถดันราคากลับขึ้นมาปิดใกล้จุดสูงสุดได้ เป็นสัญญาณที่บ่งบอกถึงโอกาสในการกลับตัวขึ้น
4. Morning Star
Morning Star เป็นแพทเทิร์นกราฟแท่งเทียนที่ประกอบด้วยสามแท่งติดต่อกัน เริ่มจากแท่งสีแดงขนาดใหญ่ ตามด้วยแท่งเล็กที่มีช่องว่างลงมา และปิดท้ายด้วยแท่งสีเขียวขนาดใหญ่ที่ปิดสูงกว่าจุดกึ่งกลางของแท่งแรก รูปแบบนี้มักเกิดที่จุดต่ำสุดของแนวโน้มขาลงและบ่งชี้โอกาสในการกลับตัวขึ้น
5. Harami
Harami เป็นแพทเทิร์นที่ประกอบด้วยแท่งเทียนสองแท่ง โดยแท่งแรกมีขนาดใหญ่และแท่งที่สองมีขนาดเล็กกว่าอยู่ภายในขอบเขตของแท่งแรก แสดงถึงการชะลอตัวของแนวโน้มปัจจุบันและอาจนำไปสู่การเปลี่ยนทิศทาง สามารถเกิดได้ทั้งในรูปแบบ Bullish และ Bearish ขึ้นอยู่กับแนวโน้มก่อนหน้า
6. Hanging Man
Hanging Man มีลักษณะคล้าย Hammer แต่เกิดในช่วงท้ายของแนวโน้มขาขึ้น ประกอบด้วยตัวเทียนเล็กและไส้ล่างยาว แสดงถึงแรงขายที่เข้ามาในตลาด เป็นสัญญาณเตือนว่าแนวโน้มขาขึ้นอาจใกล้สิ้นสุดและราคากำลังเริ่มจะมีการปรับตัวลง
การวิเคราะห์กราฟแท่งเทียนเพื่อหาจุดซื้อขาย
ในการวิเคราะห์กราฟแท่งเทียน จุดซื้อขายจะเกิดขึ้นได้นั้นต้องเริ่มจากการมองภาพรวมแนวโน้มให้ชัดเจนว่า อยู่ในช่วงขาขึ้น ขาลง หรือแนวราบ แล้วจึงพิจารณารายละเอียดของแท่งเทียน โดยข้อมูลที่ได้จากการอ่านกราฟแท่งเทียน ควรนำไปประกอบกับอินดิเคเตอร์อื่น ๆ เช่น RSI, Stochastic หรือ MACD เพื่อยืนยันสัญญาณและลดโอกาสการเกิดสัญญาณหลอก
สรุปบทความ
การอ่านกราฟแท่งเทียนเป็นทักษะสำคัญที่นักเทรดทุกคนควรเรียนรู้และฝึกฝน เพราะแพทเทิร์นกราฟแท่งเทียนต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นสามารถช่วยในการคาดการณ์ทิศทางของราคาและหาจุดเข้าเทรดที่เหมาะสม อย่างไรก็ตาม การวิเคราะห์กราฟแท่งเทียนให้มีประสิทธิภาพต้องประยุกต์ใช้ร่วมกับเครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิคอื่น ๆ เพื่อยืนยันสัญญาณและเพิ่มโอกาสความสำเร็จในการเทรด
หากคุณสนใจพัฒนาทักษะการอ่านและวิเคราะห์กราฟแท่งเทียน พร้อมเรียนรู้เทคนิคการเทรดจากผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์จริง Master Trader Academy พร้อมดูแล! ด้วยคอร์สเรียนเทรดที่ครอบคลุม พร้อมเทคนิคการเทรดดี ๆ และทีมผู้สอนที่มีประสบการณ์ตรง เราพร้อมช่วยให้คุณก้าวสู่การเป็นนักเทรดมืออาชีพที่ประสบความสำเร็จ
สอบถามเพิ่มเติมเกี่ยวกับคอร์สเรียนได้ที่
- Line : @mtaacademy
- Facebook : Master Trader Academy TH
- Email : mtamasteracademy@gmail.com