ค่า Swap คืออะไร คิดตอนไหน เข้าใจต้นทุนก่อนเริ่มเทรด

การเทรดในตลาด Forex คือการลงทุนที่หลายคนคุ้นเคย แต่ยังมีต้นทุนบางอย่างที่นักเทรดมือใหม่อาจมองข้าม หนึ่งในนั้นคือ ค่า Swap หรือค่าสวอป ซึ่งเกิดขึ้นเมื่อต้องถือครองออเดอร์ข้ามคืน ค่าใช้จ่ายนี้อาจส่งผลกระทบต่อกำไรขาดทุนได้ไม่น้อย โดยเฉพาะสำหรับผู้ที่ชื่นชอบการเทรดทอง Forex หรือเทรดคู่สกุลเงินหลัก วันนี้ MTA Academy จึงจะพาไปทำความรู้จักต้นทุนสำคัญอย่าง Swap กันให้ลึกขึ้นว่า ค่า Swap คืออะไร ส่งผลอย่างไรต่อการเทรดบ้าง

หัวข้อที่น่าสนใจ

ค่า Swap คืออะไร

ค่า Swap คือค่าธรรมเนียมที่เกิดจากการถือครองสถานะการเทรดข้ามคืนในตลาด Forex โดยค่า Swap อาจเป็นบวกหรือลบก็ได้ขึ้นอยู่กับความแตกต่างของอัตราดอกเบี้ยระหว่างสองสกุลเงินที่เลือกเทรด เช่น หากคุณเทรดคู่เงิน EUR/USD และอัตราดอกเบี้ยของ EUR ต่างจาก USD ความแตกต่างนี้จะส่งผลให้เกิดการจ่ายหรือได้รับค่า Swap ตามเงื่อนไขของตลาดและโบรกเกอร์

H3 ค่า Swap คิดตอนไหน

ค่าสวอป Forex จะถูกคิดเมื่อเทรดเดอร์ในตลาด Forex ถือครองออเดอร์ข้ามคืน ซึ่งส่วนใหญ่โบรกเกอร์ Forex ที่ให้บริการในประเทศไทยจะคิดค่า Swap ในออเดอร์ที่มีการถือเกินเวลา 05.00 น. ตามเวลาในประเทศไทย สำหรับวันพุธคืนวันพฤหัสบดีจะมีการคิดค่า Swap เป็น 3 เท่า เนื่องจากเป็นการรวมค่าธรรมเนียมของวันเสาร์และอาทิตย์ที่ตลาดปิดทำการ

การถือออเดอร์ข้ามคืน ไม่ได้หมายถึงการถือสถานะครบ 24 ชั่วโมง แม้ว่านักเทรดจะถือสถานะเพียง 2 ชั่วโมง แต่ถือคร่อมช่วงเวลาก่อน-หลัง 05.00 น. ก็จะถูกคิดค่า Swap สำหรับสถานะที่เปิดไว้นั้น ๆ ทั้งหมด

H2 ทำไมจึงเกิดค่า Swap

เหตุผลที่เกิดค่า Swap คือการเทรดในตลาด Forex เป็นการซื้อขายเงินตราสองสกุลพร้อมกัน ซึ่งในโลกความเป็นจริง “เงิน” แต่ละสกุลมีอัตราดอกเบี้ยแตกต่างกัน เวลาเทรดเดอร์ถือสถานะข้ามวัน ก็เท่ากับว่ากำลัง “กู้เงิน” หนึ่งสกุลเพื่อ “ลงทุน” อีกหนึ่งสกุลโดยอัตโนมัติ

ดังนั้นต้องมีการปรับดอกเบี้ยระหว่างสองสกุลเงินให้สะท้อนต้นทุนการถือครองจริง หากกู้สกุลเงินที่มีดอกเบี้ยต่ำมาซื้อสกุลเงินที่มีดอกเบี้ยสูง เทรดเดอร์ก็อาจได้รับผลตอบแทน แต่ถ้ากู้สกุลเงินที่มีดอกเบี้ยสูงไปซื้อสกุลเงินที่มีดอกเบี้ยต่ำ ก็ต้องเสียต้นทุนเพิ่มในรูปแบบค่า Swap นั่นเอง

H2 ค่า Swap เป็นบวกและลบคืออะไร

ค่า Swap ที่เป็นบวกและลบส่งผลโดยตรงต่อต้นทุนและผลกำไรของเรา โดยมีรายละเอียด ดังนี้

H3 ค่า Swap เป็นบวก

เมื่อค่า Swap Forex เป็นบวก หมายความว่าเทรดเดอร์จะได้รับผลตอบแทนเพิ่มเติมจากการถือครองสถานะข้ามคืน สถานการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อสกุลเงินที่เราซื้อมีอัตราดอกเบี้ยสูงกว่าสกุลเงินที่เราขาย ทำให้เราได้รับดอกเบี้ยมากกว่าที่ต้องจ่าย ซึ่งเทรดเดอร์บางคนอาจใช้กลยุทธ์ Carry Trade เพื่อทำกำไรจากส่วนต่างของอัตราดอกเบี้ยนี้

H3 ค่า Swap เป็นลบ

ในทางตรงกันข้าม เมื่อค่า Swap เป็นลบ แสดงว่าเทรดเดอร์จะต้องเสียค่าธรรมเนียมเพิ่มเติมจากการถือครองสถานะข้ามคืน กรณีนี้เกิดขึ้นเมื่อสกุลเงินที่เราซื้อมีอัตราดอกเบี้ยต่ำกว่าสกุลเงินที่เราขาย ทำให้เราต้องจ่ายดอกเบี้ยมากกว่าที่ได้รับ ดังนั้น หากวางแผนถือครองสถานะเป็นเวลานาน ควรพิจารณาผลกระทบของค่า Swap ที่เป็นลบอย่างรอบคอบ

H2 ค่า Swap Long และ Swap Short คืออะไร

การเข้าใจความแตกต่างระหว่าง Swap Long และ Swap Short จะช่วยให้เราวางแผนการเทรดได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

H3 ค่า Swap Long

ค่า Swap Long คือค่าธรรมเนียม หรือดอกเบี้ยที่ต้องเสียหรือได้รับเมื่อถือออเดอร์ BUY (Long) ข้ามเวลา 05.00 น. ตามเวลาไทย โดยจะได้รับดอกเบี้ยจากสกุลเงินที่เราซื้อ และต้องจ่ายดอกเบี้ยสำหรับสกุลเงินที่เราขาย ตัวอย่างเช่น เมื่อเราซื้อ EUR/USD เราจะได้รับดอกเบี้ยจากการถือครอง EUR และต้องจ่ายดอกเบี้ยสำหรับ USD ที่เรายืมมา

H3 ค่า Swap Short

ค่า Swap Short คือค่ค่าธรรมเนียม หรือดอกเบี้ยที่เกิดขึ้นเมื่อเราถือออเดอร์ขาย Sell (Short) ข้ามคืน ข้ามเวลา 05.00 น. ตามเวลาไทย ในกรณีนี้ เราจะได้รับดอกเบี้ยจากสกุลเงินที่เราขาย และต้องจ่ายดอกเบี้ยสำหรับสกุลเงินที่เราซื้อ ยกตัวอย่างเช่น เมื่อเราขาย EUR/USD เราจะได้รับดอกเบี้ยจาก USD และต้องจ่ายดอกเบี้ยสำหรับ EUR

H2 ปัจจัยที่ส่งผลต่อค่า Swap Forex คืออะไร

ค่าสวอป Forex ได้รับอิทธิพลจากหลายปัจจัย ดังนี้

ปัจจัยที่ส่งผลต่อค่า Swap Forex คืออะไร

อัตราดอกเบี้ยของแต่ละประเทศ หากอัตราดอกเบี้ยของสกุลเงินใดสกุลเงินหนึ่งในคู่เงินที่ซื้อขายเกิดการเปลี่ยนแปลง จะทำให้ค่า Swap ถูกปรับขึ้นหรือลดลงไปด้วย
อัตราแลกเปลี่ยนของสกุลเงิน ในช่วงที่ตลาดมีความผันผวนสูง อาจส่งผลต่อค่า Swap
สภาพคล่องในตลาด ในช่วงที่ตลาดมีสภาพคล่องต่ำ ค่า Swap อาจสูงขึ้น
นโยบายของแต่ละโบรกเกอร์ บางรายอาจไม่มีค่า Swap เช่น IUX, OctaFX, GMI Markets, FBS และ XM

วิธีคำนวณค่า Swap คิดอย่างไร

สูตรทั่วไปในการคำนวณค่า Swap คือ

Swap = ขนาดการเทรด (Lot Size) x อัตรา Swap (Swap Rate) x จำนวนคืนที่ถือครอง

ยกตัวอย่าง หากถือสถานะ Long Position (Buy) EUR/USD ขนาด 1 lot โดยมีอัตรา Swap -0.5 pips ต่อวัน และถือครองเป็นเวลา 2 คืน โดยที่ 1 pip ของ EUR/USD มีมูลค่า 10 USD สำหรับ Standard lot ดังนั้น -0.5 pips = -0.5*10 = -5 USD

Swap = Lot Size x Swap Rate x จำนวนคืนที่ถือครอง

Swap = 1 lot x (-5 USD) x 2 คืน = -10 USD

ในกรณีนี้ค่า Swap เป็นลบ ดังนั้นคุณจะต้องจ่ายค่า Swap ในการถือสถานะ Long Position (Buy) จำนวน 10 USD

วิธีดูค่า Swap

เทรดเดอร์สามารถตรวจสอบค่า Swap ได้หลายช่องทาง

ดูผ่านแพลตฟอร์มการเทรดโดยตรง เช่น MT4 หรือ MT5 โดยคลิกขวาที่สัญลักษณ์คู่สกุลเงิน แล้วเลือก Properties
ตรวจสอบจากเว็บไซต์ของโบรกเกอร์ในส่วนข้อมูลเงื่อนไขการเทรด (Trading Conditions) หรือ Swap Rates
ติดต่อฝ่ายบริการลูกค้าของโบรกเกอร์เพื่อขอข้อมูลค่า Swap ที่เป็นปัจจุบัน

โอกาสและความเสี่ยงของ Swap Forex คืออะไร

โอกาสของค่าสวอปคือ

สามารถสร้างรายได้เพิ่มเติมจากส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยในกรณีที่ Swap เป็นบวก
เป็นโอกาสในการทำกำไรผ่านกลยุทธ์ Carry Trade
ช่วยให้เข้าใจต้นทุนการเทรดที่แท้จริงได้ชัดเจนขึ้น

ความเสี่ยงของค่าสวอปคือ

เพิ่มต้นทุนการเทรดในกรณีที่ Swap เป็นลบ
อาจกระทบผลกำไร หากถือครองระยะยาวเกินไป
มีการเปลี่ยนแปลงตามนโยบายของโบรกเกอร์และสภาวะตลาด
อาจเป็นต้นทุนที่สูงเกินคาดหากไม่มีการวางแผนที่ดี

ข้อดีและข้อเสียของค่าสวอปคืออะไร

ข้อดีของค่าสวอป คือเป็นเครื่องมือที่ช่วยให้นักเทรดสามารถวางแผนวิธีเทรด Forex ระยะยาวได้อย่างมีเหตุผลมากขึ้น การรับรู้ถึงต้นทุนหรือผลตอบแทนที่อาจเกิดขึ้นจากการถือสถานะข้ามคืน ช่วยให้สามารถประเมินความคุ้มค่าของการถือสถานะในระยะยาวได้แม่นยำยิ่งขึ้น

ข้อเสียของค่าสวอป คือมีความไม่แน่นอนเนื่องจากมีการเปลี่ยนแปลงตามนโยบายของโบรกเกอร์และสภาวะตลาดที่ผันผวน นักเทรดจึงต้องติดตามและทำความเข้าใจเงื่อนไขของ Swap ในแต่ละคู่สกุลเงินและโบรกเกอร์อย่างสม่ำเสมอ เพื่อหลีกเลี่ยงต้นทุนที่ไม่คาดคิดซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อผลลัพธ์การเทรดโดยรวม

สรุปบทความ

ค่า Swap คือต้นทุนสำคัญในการเทรด Forex ที่เทรดเดอร์ทุกคนต้องทำความเข้าใจ เพราะส่งผลโดยตรงต่อผลกำไรขาดทุน อย่างไรก็ตาม การเข้าใจวิธีการคำนวณและปัจจัยที่ส่งผลต่อค่า Swap จะช่วยให้เราสามารถวางแผนการเทรดได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งการเลือกคู่สกุลเงิน การกำหนดระยะเวลาถือครอง และการคำนวณจุดคุ้มทุน นอกจากนี้ การเลือกโบรกเกอร์ที่มีนโยบายค่า Swap ที่เหมาะสมก็เป็นอีกปัจจัยสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม

สำหรับใครที่อยากรู้วิธีบริหารต้นทุนการเทรด Forex อย่างครบวงจร ทั้งการวิเคราะห์ค่า Swap การวางแผนการเทรด และกลยุทธ์การทำกำไร Master Trader Academy พร้อมดูแล! ด้วยคอร์สเรียนเทรดที่ครอบคลุม พร้อมเทคนิคการเทรดดี ๆ และทีมผู้สอนที่มีประสบการณ์ตรง เราพร้อมช่วยให้คุณก้าวสู่การเป็นนักเทรดมืออาชีพที่ประสบความสำเร็จ

สอบถามเพิ่มเติมเกี่ยวกับคอร์สเรียนได้ที่