Loss Aversion คืออะไร รู้ทันทฤษฎีกลัวขาดทุนก่อนพอร์ตพัง
บางครั้งการกลัวเสียเงิน กลายเป็นกับดักที่รั้งให้หลายคนยอมเสียโอกาสดี ๆ ไปโดยไม่รู้ตัว ทฤษฎี Loss Aversion คือหนึ่งในพฤติกรรมที่ทำให้นักลงทุนจำนวนมากพลาดผลตอบแทนที่ควรได้ เพียงเพราะสมองให้ค่าน้ำหนักการขาดทุนมากกว่าการได้กำไร ลองมาดูกันว่า ความกลัวนี้ซ่อนอยู่ในชีวิตเราอย่างไร แล้วจะรับมือได้แบบไหน เพื่อไม่ให้พอร์ตต้องเจ็บซ้ำซ้อน
หัวข้อที่น่าสนใจ
ทฤษฎี Loss Aversion คืออะไร
Loss Aversion คือความลำเอียงทางจิตวิทยาที่ทำให้คนเราให้ค่าการสูญเสียมากกว่าการได้กำไรในมูลค่าเดียวกัน จุดเริ่มต้นของทฤษฎีนี้เกิดจากงานวิจัยของ Daniel Kahneman และ Amos Tversky ที่อธิบายว่าคนเราจะรู้สึกแย่กับการเสียเงิน 1,000 บาท มากกว่าดีใจกับการได้เงิน 1,000 บาท ทั้งที่เป็นจำนวนเท่ากัน พฤติกรรมนี้เกิดจากสัญชาตญาณการเอาตัวรอดของมนุษย์ตั้งแต่ยุคโบราณที่ความผิดพลาดเพียงครั้งเดียวอาจหมายถึงชีวิต จึงฝังรากลึกให้คนส่วนใหญ่เลือกหลีกเลี่ยงความเสี่ยงแม้จะแลกมากับโอกาสที่ดีกว่า
ตัวอย่าง Loss Aversion ในชีวิตประจำวัน
- การซื้อรถยนต์ คนส่วนใหญ่สนใจรถโมเดลพื้นฐานแล้วเพิ่มฟีเจอร์ทีหลัง มากกว่าซื้อรถเต็มฟีเจอร์แล้วลดออก เพราะการเพิ่มให้ความรู้สึกได้กำไร ส่วนการลดให้ความรู้สึกสูญเสีย
- การซื้อประกันชีวิต บริษัทประกันใช้ Loss Aversion ในการขาย โดยเน้นความกลัวการสูญเสียชีวิตหรือทรัพย์สิน ทำให้คนยอมจ่ายเบี้ยประกันราคาแพงเป็นสิบปี
- ความสัมพันธ์ คู่รักที่คบกันนานมักไม่กล้าเลิกกัน เพราะเสียดายเวลาและความทรงจำที่สร้างมาร่วมกัน แม้ความสัมพันธ์จะไม่ดี
- การเลือกลองโชค เมื่อต้องเลือกระหว่างได้เงิน 5,000 บาทแน่นอน กับโอกาส 50% ได้ 20,000 บาท คนส่วนใหญ่เลือกตัวแรก เพราะไม่อยากเสียดายถ้าไม่ได้อะไร
Loss Aversion กับ การลงทุน
เมื่อลงสนามลงทุน ไม่ว่าจะเป็นหุ้น กองทุน รวมถึงตลาด Forex พฤติกรรม Loss Aversion คือตัวบั่นทอนกำไรที่หลายคนไม่ทันสังเกต นักลงทุนส่วนใหญ่มักจะยอมขายหุ้นที่มีกำไรน้อยเร็วเกินไปเพราะกลัวกำไรจะหาย แต่กลับถือหุ้นที่ขาดทุนต่อไปเพราะไม่อยากรับรู้ว่าตัวเองขาดทุนจริง
ยิ่งในตลาด Forex ที่ความผันผวนสูง พฤติกรรมนี้ยิ่งชัด เพราะการเทรดระยะสั้นต้องอาศัยวินัยและการตัดสินใจที่ไม่ใช่อารมณ์ บางคนเทรดทองหรือเทรดคู่เงิน แล้วลังเลไม่กล้าปิดออเดอร์ทั้งที่มีสัญญาณชัดเพราะใจยังติดกับดัก Loss Aversion จนสุดท้ายเสียหายมากกว่าเดิม
ผลกระทบของ Loss Aversion ต่อการลงทุน
- Panic Selling นักลงทุนมักจะตัดสินใจขายสินทรัพย์ออกไปในช่วงที่ตลาดตกต่ำอย่างรุนแรง เพราะกลัวว่าจะขาดทุนมากขึ้น การกระทำเช่นนี้ทำให้พลาดโอกาสในการฟื้นตัวของตลาดในอนาคต
- การถือสินทรัพย์ที่ขาดทุนนานเกินไป ด้วยความไม่อยากรับรู้การขาดทุน นักลงทุนอาจถือหุ้นหรือสินทรัพย์ที่ราคาลดลงต่อไป แม้จะมีโอกาสที่ดีกว่าในการลงทุนในสินทรัพย์อื่น ๆ ซึ่งทำให้พลาดโอกาสในการทำกำไร
- การเลือกลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงต่ำเกินไป ความกลัวการสูญเสียทำให้บางคนหลีกเลี่ยงสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงสูง เช่น หุ้น และหันไปลงทุนในพันธบัตรหรือเงินฝาก ซึ่งอาจไม่สามารถสร้างผลตอบแทนที่เพียงพอต่อการบรรลุเป้าหมายการลงทุนระยะยาว
- การพลาดโอกาสทำกำไร นักลงทุนอาจลังเลที่จะเข้าซื้อสินทรัพย์ที่มีศักยภาพในการทำกำไรสูง เพราะกลัวความเสี่ยงที่จะขาดทุน ทำให้พลาดโอกาสในการสร้างความมั่งคั่ง
วิธีการจัดการกับ Loss Aversion ในการลงทุน
การจัดการกับ Loss Aversion ต้องใช้ทั้งความรู้และการฝึกฝนจิตใจ เพื่อให้สามารถตัดสินใจได้อย่างมีเหตุผลมากกว่าอารมณ์
1. ตั้งเป้าหมายชัดเจน
การกำหนดเป้าหมายที่ชัดเจนช่วยให้รู้ว่ากำลังเทรดเพื่ออะไร และจะหยุดเมื่อไร คนส่วนใหญ่พลาดเพราะไม่มีกรอบชัดเจน พอเห็นราคาผันผวนก็เปลี่ยนใจไปมา การมีเป้าหมายจะช่วยควบคุมอารมณ์ ลดความลังเล และทำให้จัดการพอร์ตได้อย่างมีเหตุผลมากขึ้น
2. ยอมรับว่าความเสี่ยงมีจริง
ทุกการลงทุนมีความเสี่ยงเป็นเงื่อนไขพื้นฐานที่เลี่ยงไม่ได้ ไม่ว่าตลาดจะขึ้นหรือลงก็ต้องเจอทั้งกำไรและขาดทุน หากรับได้ว่าความเสี่ยงคือส่วนหนึ่งของเกม จะช่วยให้ใจเย็นขึ้นและวางแผนจัดการทุนได้เหมาะสม อย่าหลอกตัวเองว่าการเทรดจะราบรื่นไปตลอด เพราะสิ่งสำคัญคือการอยู่รอดระยะยาว
3. ใช้ Stop Loss และวางแผนเทรด
สำหรับการเทรด การวาง Stop Loss ไม่ใช่เครื่องมือที่มีไว้แค่กันขาดทุน แต่เป็นส่วนสำคัญของแผนเทรดที่มืออาชีพต้องมี การกำหนดจุดหยุดจะช่วยป้องกันไม่ให้พอร์ตเสียหายหนักเกินไป และยังฝึกให้เทรดตามระบบมากกว่าใช้อารมณ์ ยิ่งมีวินัยกับแผนเทรดมากเท่าไร โอกาสพลาดเพราะความโลภก็ยิ่งน้อยลง
4. ปรึกษาโค้ชหรือชุมชนเทรด
ถ้ารู้สึกว่าเทรดคนเดียวแล้วหลุดแผนบ่อย การมีที่ปรึกษาหรือเพื่อนร่วมกลุ่มเทรดจะช่วยให้ได้มุมมองใหม่และเทคนิคเพิ่มเติม บางครั้งการแชร์ประสบการณ์กันจะช่วยให้แก้ไขจุดอ่อนได้ไวขึ้น และยังได้แรงใจจากคนที่เข้าใจปัญหาเดียวกัน ทำให้เดินตามแผนที่วางไว้ได้ง่ายกว่าเดิม
5. หลีกเลี่ยงการเสพข่าวสารมากเกินไป
ในโลกที่ข้อมูลข่าวสารไหลเข้าหาเราตลอดเวลา การตามข่าวตลาดเป็นเรื่องจำเป็นก็จริง แต่การติดตามมากเกินไปอาจกลายเป็นกับดักที่บั่นทอนสมาธิและทำให้ลังเลในการตัดสินใจ ยิ่งเปิดกราฟแล้วไถฟีดข่าวทั้งวัน ก็ยิ่งเจอข้อมูลขัดแย้งจนไขว้เขว ทางที่ดีควรเลือกเสพเฉพาะข่าวสำคัญที่เกี่ยวข้องกับกลยุทธ์ของตัวเอง แล้วฝึกเชื่อแผนที่วางไว้ให้มั่นคงมากกว่าปล่อยใจไปตามกระแสข่าวรายวัน
สรุปบทความ
Loss Aversion คืออคติทางจิตวิทยาที่ส่งผลกระทบอย่างมากต่อการตัดสินใจของเรา โดยเฉพาะในการลงทุน การที่มนุษย์ให้ค่าความเจ็บปวดจากการสูญเสียมากกว่าความยินดีที่ได้กำไรในปริมาณเท่ากัน นำไปสู่การพลาดโอกาสในการสร้างผลตอบแทนที่ดี การตระหนักรู้ถึงอคตินี้และนำแนวทางในการจัดการไปใช้ จะช่วยให้เราสามารถลงทุนได้อย่างมีสติ มีวินัย และสามารถสร้างผลตอบแทนที่ดีได้อย่างยั่งยืน
หากคุณต้องการพัฒนาทักษะการลงทุนและเทรดให้มีคุณภาพมากขึ้น Master Trader Academy พร้อมสอนเทรด Forex มือใหม่ ทั้งการเทรดคู่สกุลเงินทั่วไปและการเทรดทอง ด้วยคอร์สเรียนเทรดที่ครอบคลุม ไม่ว่าจะเป็น วิธีอ่านกราฟ Forex การใช้ RSI และอินดิเคเตอร์อื่น ๆ รวมถึงสอนเทคนิคการเทรด Forex ระยะสั้น เช่น การเทรดแบบ Scalping และเทคนิคการเทรดดี ๆ อื่น ๆ ทีมผู้สอนที่มีประสบการณ์ตรง เราพร้อมช่วยให้คุณก้าวสู่การเป็นนักเทรดมืออาชีพที่ประสบความสำเร็จ
สอบถามเพิ่มเติมเกี่ยวกับคอร์สเรียนได้ที่
- Line : @mtaacademy
- Facebook : Master Trader Academy TH
- Email : mtamasteracademy@gmail.com




