Hidden Divergence คืออะไร วิธีดูสัญญาณเทรดเพื่อไปต่อกับเทรนด์
สำหรับเทรดเดอร์ที่เริ่มวิเคราะห์กราฟทางเทคนิค คำว่า Divergence คงเป็นหนึ่งในสัญญาณแรก ๆ ที่ได้เรียนรู้กัน ซึ่งส่วนใหญ่มักจะถูกสอนว่าเป็นสัญญาณของการ “กลับตัว” แต่รู้หรือไม่ว่ามี Divergence อีกประเภทหนึ่งที่ซ่อนอยู่ และมันทำหน้าที่ตรงกันข้ามอย่างสิ้นเชิง นั่นก็คือ Hidden Divergence สัญญาณที่บอกเราว่า “เทรนด์นี้ยังไม่จบ” บทความนี้จะพาไปเจาะลึกว่า Hidden Divergence คืออะไร และเราจะใช้ประโยชน์จากมันได้อย่างไร
หัวข้อที่น่าสนใจ
Divergence คืออะไร
ก่อนจะไปถึง Hidden Divergence เรามาทบทวนความเข้าใจของ Divergence แบบปกติกันก่อน Divergence คือสภาวะที่การเคลื่อนที่ของราคากับอินดิเคเตอร์ (เช่น RSI, MACD) มันขัดแย้งกันหรือไม่ไปในทางเดียวกัน โดยปกติแล้วมันเป็นสัญญาณเตือนล่วงหน้าว่าเทรนด์ที่กำลังเกิดขึ้นอยู่นั้นเริ่มอ่อนแรงลง และอาจจะมีการกลับตัวในไม่ช้า
Hidden Divergence คืออะไร
Hidden Divergence คือสัญญาณที่ตรงข้ามกับ Divergence ปกติอย่างสิ้นเชิง ในขณะที่แบบปกติเป็นสัญญาณเตือนการ “กลับตัว” แต่ Hidden Divergence กลับเป็นสัญญาณของการ “ไปต่อตามเทรนด์เดิม” มันเป็นเหมือนการยืนยันว่าเทรนด์ปัจจุบันยังคงแข็งแกร่งและมีโอกาสที่จะดำเนินต่อไปได้อีก การมองเห็นสัญญาณ Hidden Divergence คือการหาจังหวะเข้าเทรดตามน้ำไปกับเทรนด์ใหญ่นั่นเอง
ประเภทของ Hidden Divergence
Hidden Divergence สามารถแบ่งออกได้เป็น 2 ประเภท ตามทิศทางของเทรนด์ คือแบบขาขึ้นและขาลง
Hidden Bullish Divergence คืออะไร
Hidden Bullish Divergence คือสัญญาณที่เกิดขึ้นในเทรนด์ “ขาขึ้น” เพื่อบอกว่าราคามีโอกาสจะปรับตัวขึ้นต่อไป วิธีการสังเกตคือ
- ราคา: จะยกตัวทำจุดต่ำสุดใหม่ที่สูงขึ้นกว่าเดิม (Higher Low) ซึ่งเป็นลักษณะปกติของเทรนด์ขาขึ้น
- อินดิเคเตอร์: สวนทางกัน โดยจะทำจุดต่ำสุดใหม่ที่ต่ำลงกว่าเดิม (Lower Low)
สัญญาณ Hidden Bullish Divergence คือการบอกเราว่า “แม้โมเมนตัมจะดูแผ่วลงชั่วคราว แต่แรงซื้อในภาพรวมยังคงแข็งแกร่งและพร้อมจะดันราคาขึ้นไปต่อ” นี่จึงเป็นโอกาสดีในการหาจังหวะเข้าซื้อ (Buy) ตามเทรนด์หลัก
Hidden Bearish Divergence คืออะไร
ส่วน Hidden Bearish Divergence จะเกิดขึ้นในเทรนด์ “ขาลง” เพื่อเป็นสัญญาณว่าราคามีแนวโน้มจะปรับตัวลงต่อตามเทรนด์เดิม วิธีการสังเกตจะตรงข้ามกัน
- ราคา: จะทำจุดสูงสุดใหม่ที่ต่ำลงกว่าเดิม (Lower High) ซึ่งเป็นลักษณะปกติของเทรนด์ขาลง
- อินดิเคเตอร์: กลับทำจุดสูงสุดใหม่ที่สูงขึ้นกว่าเดิม (Higher High)
เมื่อเกิดความขัดแย้งแบบนี้ขึ้น มันคือสัญญาณที่บอกว่า “ถึงแม้จะมีแรงซื้อพยายามดันราคากลับขึ้นมา แต่แรงขายในภาพรวมยังคงคุมตลาดอยู่ และมีโอกาสที่ราคาจะถูกกดลงไปต่อ” เทรดเดอร์ก็จะมองหาจังหวะเข้าขาย (Sell)
วิธีดูและวิเคราะห์ Hidden Divergence บนกราฟ
การจะมองหา Hidden Divergence ให้เจอ ต้องอาศัยการสังเกตสักหน่อย แต่ก็มีขั้นตอนง่าย ๆ ดังนี้
- ระบุเทรนด์หลักให้ได้ก่อน: มองภาพรวมของกราฟว่าตอนนี้เป็นขาขึ้นหรือขาลงอย่างชัดเจน
- มองหาการพักตัวของราคา: ในเทรนด์ขาขึ้น ให้มองหาจุดที่ราคาย่อตัวลงมาแล้วทำจุดต่ำสุดที่สูงกว่าเดิม (Higher Low) ในเทรนด์ขาลง ก็มองหาจุดที่ราคาดีดตัวขึ้นไปแล้วทำจุดสูงสุดที่ต่ำกว่าเดิม (Lower High)
- เทียบกับอินดิเคเตอร์: ลากเส้นเชื่อมจุดต่ำสุดหรือสูงสุดบนกราฟราคา แล้วลากเส้นเชื่อมจุดเดียวกันบนหน้าต่างอินดิเคเตอร์ (อินดิเคเตอร์ที่นิยมใช้ดูคือ RSI)
- มองหาความขัดแย้ง: ดูว่าเส้นที่ลากทั้งสองเส้นมันสวนทางกันหรือไม่ ถ้าใช่ คุณก็เจอสัญญาณ Hidden Divergence แล้ว ซึ่งการฝึกฝนบ่อย ๆ จะช่วยพัฒนาทักษะวิธีอ่านกราฟ Forex ของคุณให้เฉียบคมขึ้น
ความสำคัญของ Hidden Divergence ในกลยุทธ์เทรด
- ยืนยันความแข็งแกร่งของเทรนด์ ช่วยให้เรามั่นใจที่จะถือออเดอร์ต่อไปตามเทรนด์
- เป็นสัญญาณในการเข้าเทรดตามเทรนด์ในจังหวะที่ได้เปรียบ
- ช่วยป้องกันไม่ให้เราเข้าเทรดสวนทางกับแนวโน้มหลัก ซึ่งมักมีความเสี่ยงสูง
ข้อควรระวังและข้อจำกัดในการใช้ Hidden Divergence
- ควรใช้ Hidden Divergence เป็นสัญญาณยืนยันร่วมกับเครื่องมืออื่น ๆ เช่น การดูรูปแบบแท่งเทียนกลับตัว หรือการใช้แนวรับแนวต้านประกอบ
- บางครั้งเมื่อเกิดสัญญาณแล้ว ราคาอาจไม่ไปต่อตามเทรนด์ก็ได้ ดังนั้น การตั้งจุดตัดขาดทุน (Stop Loss) จึงเป็นสิ่งจำเป็นเสมอ
- ในช่วงที่ตลาดเป็น Sideway หรือมีความผันผวนสูง สัญญาณอาจมีความคลาดเคลื่อนได้ง่าย
คำถามที่พบบ่อย (FAQ)
Hidden Divergence แม่นยำแค่ไหน
ถือเป็นสัญญาณที่มีความน่าเชื่อถือค่อนข้างสูง โดยเฉพาะเมื่อเกิดขึ้นในเทรนด์ที่แข็งแกร่งและได้รับการยืนยันจากเครื่องมืออื่น ๆ ประกอบ แต่ก็ไม่สามารถรับประกันผลได้ 100%
Bullish Divergence ดูยังไง
Bullish Divergence แบบ “ปกติ” (ไม่ใช่ Hidden) จะเกิดขึ้นในเทรนด์ขาลง โดยราคาทำจุดต่ำสุดใหม่ที่ต่ำลง (Lower Low) แต่อินดิเคเตอร์กลับทำจุดต่ำสุดที่ยกสูงขึ้น (Higher Low) ซึ่งเป็นสัญญาณเตือนการ “กลับตัว” เป็นขาขึ้น
ควรใช้ Hidden Divergence กับ Time Frame ไหนดีที่สุด
Hidden Divergence สามารถเกิดขึ้นได้ในทุก Time Frame แต่สัญญาณที่เกิดขึ้นใน Time Frame ใหญ่ เช่น 4 ชั่วโมง หรือ กราฟรายวัน (Daily) จะมีความน่าเชื่อถือและส่งผลให้ราคาเคลื่อนที่ไปได้ไกลกว่าสัญญาณที่เกิดใน Time Frame เล็ก ๆ อย่าง 5 นาที หรือ 15 นาที
สรุปบทความ
Hidden Divergence คือสัญญาณที่ทรงพลังสำหรับเทรดเดอร์สายตามแนวโน้ม ช่วยยืนยันว่าเทรนด์ปัจจุบันยังมีโอกาสไปต่อ และมอบจังหวะในการเข้าเทรดที่มีคุณภาพ การแยกแยะระหว่าง Divergence แบบปกติ (สัญญาณกลับตัว) กับ Hidden Divergence (สัญญาณไปต่อ) ให้ได้อย่างชัดเจน จะเป็นอีกหนึ่งทักษะสำคัญที่ช่วยเพิ่มความได้เปรียบในการเทรดของคุณ
หากคุณต้องการพัฒนาทักษะการลงทุนและเทรดให้มีคุณภาพมากขึ้น Master Trader Academy พร้อมสอนเทรด Forex มือใหม่ ทั้งการเทรดคู่สกุลเงินทั่วไปและการเทรดทอง ด้วยคอร์สเรียนเทรดที่ครอบคลุม ตั้งแต่เทคนิคเทรด Forex สำหรับการเติบโตอย่างยั่งยืน, วิธีอ่านกราฟ Forex, การทำกำไรระยะสั้นด้วยเทคนิคการเทรด Forex ระยะสั้น, ไปจนถึงการเทรดความเร็วสูงอย่างเทรดแบบ Scalping หรือแม้แต่การใช้ระบบเทรดอัตโนมัติด้วย EA Forex พร้อมเรียนรู้การใช้เครื่องมือวิเคราะห์ขั้นสูง เช่น RSI และอินดิเคเตอร์อื่น ๆ ทีมผู้สอนที่มีประสบการณ์ตรง เราพร้อมช่วยให้คุณก้าวสู่การเป็นนักเทรดมืออาชีพที่ประสบความสำเร็จ
สอบถามเพิ่มเติมเกี่ยวกับคอร์สเรียนได้ที่
- Line : @mtaacademy
- Facebook : Master Trader Academy TH
- Email : mtamasteracademy@gmail.com


