Supply & Demand Zone คืออะไร โซนที่รายใหญ่นิยมเข้าเทรด
ในตลาดที่มีราคาวิ่งขึ้นลงตลอดเวลา นักเทรดเก่ง ๆ มักมองหาสัญญาณจาก “รายใหญ่” และหนึ่งในเทคนิคสำคัญที่ช่วยให้เราเห็นร่องรอยของคนกลุ่มนี้ก็คือ การวิเคราะห์ Demand Supply Zone หรือโซนอุปสงค์และอุปทาน โซนเหล่านี้คือจุดที่บอกว่ามีแรงซื้อหรือแรงขายจำนวนมากเข้ามา ทำให้ราคาอาจจะเปลี่ยนทิศทาง ถ้าคุณรู้ว่า Demand Supply Zone อยู่ตรงไหน ก็เท่ากับรู้จุดที่ได้เปรียบในการเข้าเทรด แล้วโซนเหล่านี้คืออะไร มีหน้าตาแบบไหน และใช้เทรดจริงยังไง มาหาคำตอบไปพร้อมกัน
หัวข้อที่น่าสนใจ
Demand Supply Zone คืออะไร
Demand Supply Zone คือบริเวณบนกราฟราคาที่เกิดการซื้อขายอย่างหนาแน่น หรือเป็นช่วงที่ราคามักจะมีการตอบสนองอย่างรุนแรงเมื่อมาถึง ซึ่งบ่งบอกถึงความไม่สมดุลระหว่างอุปสงค์ (Demand) และอุปทาน (Supply)
โซนที่มีความต้องการซื้อ (Demand Zone)
Demand Zone คือโซนบนกราฟที่แสดงถึงบริเวณที่มีความต้องการซื้อสูง เปรียบเสมือนแนวรับที่แข็งแกร่ง เมื่อราคาลดลงมาถึงโซนนี้ มักจะมีแรงซื้อจำนวนมากเข้ามาดันให้ราคากลับขึ้นไปอีกครั้ง บ่งบอกว่าผู้เล่นรายใหญ่มองว่าราคานี้เป็นโอกาสดีที่จะเข้าสะสมสินทรัพย์ เมื่อราคามาแตะ Demand Zone แล้วมีการดีดตัวขึ้น มักจะเห็นเป็นแท่งเทียนสีเขียวขนาดใหญ่ ซึ่งเป็นสัญญาณที่น่าสนใจสำหรับนักเทรดที่กำลังมองหาจังหวะเข้าซื้อ
โซนที่มีความต้องการขาย (Supply Zone)
Supply Zone คือโซนบนกราฟที่แสดงถึงบริเวณที่มีความต้องการขายสูง เปรียบเสมือนแนวต้านที่แข็งแกร่ง เมื่อราคาปรับตัวขึ้นมาถึงโซนนี้ มักจะมีแรงขายจำนวนมากเข้ามาสกัดกั้น ทำให้ราคาถูกกดดันให้กลับลงไปอีกครั้ง บ่งบอกว่าผู้เล่นรายใหญ่มองว่าราคานี้เป็นโอกาสดีที่จะกระจายการขายสินทรัพย์ออกไป เมื่อราคามาแตะ Supply Zone แล้วมีการร่วงลง มักจะเห็นเป็นแท่งเทียนสีแดงขนาดใหญ่ บ่งบอกถึงแรงขายที่รุนแรง และเป็นสัญญาณที่นักเทรดมักจะมองหาจังหวะเข้าขาย
รูปแบบของ Demand Supply Zone
Demand Supply Zone แบ่งออกเป็น 4 แบบหลัก
รูปแบบการกลับตัว (Reversal Patterns)
- Drop Base Rally (DBR) รูปแบบที่บ่งบอกถึงการกลับตัวจากแนวโน้มขาลงเป็นขาขึ้น โดยราคาจะปรับตัวลงมา (Drop) พักตัวในกรอบแคบ ๆ (Base) จากนั้นมีแรงซื้อดันราคาพุ่งขึ้นไป (Rally)
- Rally Base Drop (RBD) รูปแบบที่บ่งบอกถึงการกลับตัวจากแนวโน้มขาขึ้นเป็นขาลง โดยราคาจะปรับตัวขึ้นมา (Rally) พักตัว (Base) จากนั้นมีแรงขายกดดันราคาให้ร่วงลงไป (Drop)
รูปแบบความต่อเนื่อง (Continuation Patterns)
- Rally Base Rally (RBR) รูปแบบที่บ่งบอกถึงการที่ราคาจะเคลื่อนไหวไปในทิศทางเดิม โดยราคาจะปรับตัวขึ้นมา (Rally) พักตัว (Base) จากนั้นมีแรงซื้อดันราคาให้ขึ้นต่อไป (Rally)
- Drop Base Drop (DBD) รูปแบบที่บ่งบอกถึงการที่ราคาจะเคลื่อนไหวไปในทิศทางเดิม โดยราคาจะปรับตัวลงมา (Drop) พักตัว (Base) จากนั้นมีแรงขายกดดันราคาให้ร่วงลงต่อไป (Drop)
การเข้าใจว่าตลาดอยู่ในช่วงแนวโน้มแบบใด และเกิดรูปแบบ Demand Supply Zone แบบไหน จะช่วยให้นักเทรดวางแผนการเข้าเทรดได้อย่างมีประสิทธิภาพ
การดูความแข็งแรงของ Demand Supply Zone
- แท่งเทียน Breakout ต้องใหญ่และแข็งแรง แท่งเทียนที่หลุดออกจากโซนต้องมีเนื้อเทียนมากกว่า 80% ของความยาวทั้งหมด แสดงถึงแรงซื้อหรือขายที่แท้จริง
- กลุ่ม Base ต้องพักตัวไม่เกิน 10 แท่ง หากมากกว่านี้ อาจบ่งบอกว่าราคาพักตัวนานเกินไป ไม่ใช่การสะสมหรือกระจายของรายใหญ่ที่แท้จริง ทำให้โซนนั้นมีโอกาสอ่อนแอลง
- เป็นโซนที่ยังไม่เคยถูกทดสอบมาก่อน โซนที่ดีที่สุด คือโซนที่ราคายังไม่เคยกลับมาแตะนับตั้งแต่การ Breakout ออกไป ยิ่ง Demand Supply Zone ได้รับการทดสอบมากครั้งเท่าไหร่ โอกาสที่โซนนั้นจะรับหรือต้านราคาได้สำเร็จก็จะยิ่งลดน้อยลงไปเท่านั้น
- ระวังช่วง Fakeout หรือ Spring สัญญาณหลอกที่ราคาเบรกแนวรับ-แนวต้านไปชั่วคราวแล้วกลับทิศทางเดิม (Fakeout หรือ Spring) อาจเป็นสัญญาณที่รายใหญ่สร้างขึ้นเพื่อหาสภาพคล่องเพิ่มเติมก่อนที่จะเข้าสะสมหรือกระจายของจริง
การเข้าเทรดด้วย Demand Supply Zone
การเทรด Demand Zone
- รูปแบบ DBR (Drop Base Rally) เมื่อเห็นราคาทิ้งตัวลงมา พักตัวเป็น Base และพุ่งขึ้นไปอย่างรุนแรง เกิดเป็น Demand Zone คุณจะรอให้ราคาย่อตัวกลับลงมาที่ขอบบนของ Demand Zone (เนื้อเทียนของ Base แท่งสุดท้าย) แล้วพิจารณาเข้า Buy เมื่อมีสัญญาณกลับตัวหรือพฤติกรรมราคาที่ยืนยัน เช่น แท่งเทียนกลับตัว โดยตั้ง Stop Loss ไว้ใต้ขอบล่างของ Demand Zone (ไส้เทียนที่ต่ำที่สุดของ Base)
- รูปแบบ RBR (Rally Base Rally) เมื่อเห็นราคาพุ่งขึ้นมา พักตัวเป็น Base และพุ่งขึ้นไปต่อ เกิดเป็น Demand Zone คุณจะรอให้ราคาย่อตัวกลับลงมาที่ขอบบนของ Demand Zone แล้วพิจารณาเข้า Buy โดยตั้ง Stop Loss ไว้ใต้ขอบล่างของ Demand Zone
การเทรด Supply Zone
- รูปแบบ RBD (Rally Base Drop) เมื่อเห็นราคาพุ่งขึ้นมา พักตัวเป็น Base และทิ้งตัวลงอย่างรุนแรง เกิดเป็น Supply Zone คุณจะรอให้ราคาวิ่งกลับขึ้นไปที่ขอบล่างของ Supply Zone (เนื้อเทียนของ Base แท่งสุดท้าย) แล้วพิจารณาเข้า Sell เมื่อมีสัญญาณกลับตัวหรือพฤติกรรมราคาที่ยืนยัน โดยตั้ง Stop Loss ไว้เหนือขอบบนของ Supply Zone (ไส้เทียนที่สูงที่สุดของ Base)
- รูปแบบ DBD (Drop Base Drop) เมื่อเห็นราคาทิ้งตัวลงมา พักตัวเป็น Base และทิ้งตัวลงต่อ เกิดเป็น Supply Zone คุณจะรอให้ราคาวิ่งกลับขึ้นมาเทสที่ขอบล่างของ Supply Zone แล้วพิจารณาเข้า Sell โดยตั้ง Stop Loss ไว้เหนือขอบบนของ Supply Zone
หลักการสำคัญคือ การรอให้ราคากลับเข้ามาในโซนที่แข็งแรง แล้วมองหาสัญญาณยืนยันก่อนตัดสินใจเข้าเทรด การวาง Stop Loss ที่ชัดเจนจะช่วยจำกัดความเสี่ยงได้เป็นอย่างดี
ข้อดีของการเทรดด้วย Demand Supply Zone
- เทรดในทิศทางเดียวกับรายใหญ่
- จุดเข้าและออกที่ชัดเจน ทำให้วางแผนการเทรดได้ง่าย
- Risk Reward Ratio ที่ดี ระยะ Stop Loss สั้น แต่สามารถเก็บกำไรได้ไกล
- ใช้ได้กับทุกตลาด ไม่ว่าจะเป็น Forex, หุ้น, หรือ Crypto หลักการเดียวกัน
- ลดการเทรดตามอารมณ์ มีระบบที่ชัดเจนช่วยให้เทรดอย่างมีวินัย
สรุปบทความ
Demand Supply Zone คือเครื่องมือสำคัญที่ช่วยให้นักเทรดสามารถเข้าใจพฤติกรรมของรายใหญ่และหาโอกาสเทรดที่มีคุณภาพ การเรียนรู้วิธีการระบุโซนที่แข็งแรงและการเข้าเทรดอย่างมีระบบจะช่วยเพิ่มโอกาสทำกำไรในระยะยาว
หากคุณต้องการเจาะลึกเทคนิคการวิเคราะห์ Demand Supply Zone และเพิ่มพูนความรู้เกี่ยวกับการลงทุนในตลาด Forex ตลาดทอง Forex หรือกำลังเตรียมตัวสอบกองทุน Forex Master Trader Academy พร้อมดูแล! ด้วยคอร์สเรียนเทรด Forex ที่ครอบคลุม ทั้งการสอนเทรดทอง Forex การใช้ RSI ในการวิเคราะห์ การอ่านกราฟ และหลักสูตรอื่น ๆ ที่จะช่วยพัฒนาทักษะการเทรดทอง Forex ของคุณ ทีมผู้สอนที่มีประสบการณ์ตรง เราพร้อมช่วยให้คุณก้าวสู่การเป็นนักเทรดมืออาชีพที่ประสบความสำเร็จ
สอบถามเพิ่มเติมเกี่ยวกับคอร์สเรียนได้ที่
- Line : @mtaacademy
- Facebook : Master Trader Academy TH
- Email : mtamasteracademy@gmail.com